The All-New Subaru Forester e-Boxer ใหม่ เผยโฉมแล้วที่สิงคโปร์
ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า-เบนซินแบบคู่ ยานพาหนะทางเลือกใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มอเตอร์ อิมเมจ เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูบารุในประเทศสิงคโปร์ได้เผยโฉม The All-New Forester e-Boxer ซึ่งเป็นการปรับโฉมเครื่องยนต์แบบไฮบริดขั้นสูงของรุ่น Forester ที่เป็นไอคอนของซูบารุ โดยจะเผยโฉมครั้งแรก ณ ประเทศสิงคโปร์ที่งาน Singapore Motorshow 2019 โดยรถ SUV รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดไฟฟ้า-เบนซิน และคุณสมบัติที่น่าประทับใจมากมาย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย The All-New Forester e-Boxer จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสิงคโปร์ในไตรมาส 4 ของปี 2562
“การจัดแสดง The All-New Forester e-Boxer คือการนำเสนอประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับลูกค้าด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้า-เบนซินแบบคู่ ในขณะที่ยังคงความสะดวกสบายตามแบบฉบับของซูบารุ การควบคุมรถที่เยี่ยมยอดและความปลอดภัยทำให้ Forester เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของทุกคน” มร.เกลน ตัน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ กลุ่ม ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “Forester e-Boxer คือการนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าของเรา โดยเป็นรถยนต์ที่ผสมผสานจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมกับประสิทธิภาพการขับขี่เข้าด้วยกัน ถือเป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดที่เราได้นำเสนอสู่ตลาด”
Subaru Forester e-Boxer
เทคโนโลยีที่ผสมผสานอย่างไร้รอยต่อคือหัวใจของการออกแบบ
เครื่องยนต์ “e-Boxer” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Forester e-Boxer และที่มาของชื่อรุ่น คือหนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นเครื่องหมายการค้าของยานพาหนะ สำหรับตัวรถของ Forester e-Boxer นั้น ขับเคลื่อนโดยกลไกการทำงานของเครื่องยนต์แบบคู่ อันประกอบด้วยสองส่วนประกอบที่แตกต่างกัน คือ ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จะทำงานเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำเพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเปลี่ยนไปใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่สูงขึ้น โดยระบบดังกล่าวช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 5.4 ลิตร/100กิโลเมตร และเครื่องยนต์ SUV ไฮบริด ยังมอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจโดยการให้แรงบิดสูงถึง 188 นิวตันเมตร/4000 รอบ ต่อนาที
เพื่อให้ผู้ขับขี่เห็นภาพรวมที่ชัดเจนของระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้า-เบนซินแบบคู่ รถยนต์ Forester e-Boxer จึงได้พัฒนาหน้าจอแสดงการไหลของพลังงานแบบไฮบริด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอมัลติฟังก์ชั่น Infotainment ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ผู้ขับขี่สามารถประมวลผลข้อมูลยานพาหนะที่สำคัญได้อย่างง่ายดายด้วยความละเอียดที่สูงขึ้น และรายละเอียดที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะภายในเครื่องยนต์
การผสมผสานโครงสร้างเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น
เช่นเดียวกับ The All-New Forester รถยนต์ Forester e-Boxer แบบไฮบริด ถูกสร้างขึ้นบน Subaru Global Platform ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสาหลักหรือ Subaru Core Technologies อันเป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นเป็นหลัก Subaru Global Platform สามารถรองรับระบบเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์แบบดั้งเดิม ระบบไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด และระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้า แม้จะมีระบบไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ Forester e-Boxer ก็ยังแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างแพลตฟอร์มรถและระบบเครื่องยนต์ เป็นผลให้ SUV ไฮบริดไม่สูญเสียพื้นที่ในตัวรถ – พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระนั้นใกล้เคียงกับรุ่นเบนซิน และยังให้พื้นที่บรรทุกภายในกว่า 500 ลิตร ที่เพียงพอแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ความปลอดภัยยังคงมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ
Forester e-Boxer ยังคงให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการผสมผสานคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ได้รับรางวัล เช่น เทคโนโลยี EyeSight Driver Assist ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Subaru โดย EyeSight เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่ การเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Automatic Pre-Collision Braking), การจัดการคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management), ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control), การแจ้งเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert), ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning), หรือระบบเตือนเมื่อรถส่าย (Lane Sway Warning) ให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่บนท้องถนน
SUV ไฮบริดยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษ X-MODE ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่เพิ่มระดับความปลอดภัย เมื่อขับขี่ไปบนพื้นผิวที่ไม่เรียบและภูมิประเทศที่ท้าทาย เพียงกดปุ่ม ระบบ X-MODE ระบบจะเข้าเกียร์เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รับมือกับภูมิประเทศที่ยากที่สุด เพื่อยกระดับความมั่นใจในการขับขี่ ในขณะที่มอบความสะดวกสบายมากขึ้นในการจัดการกับสภาพถนนที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากนี้ Forester e-Boxer ยังมีระยะสูงจากพื้นถนนที่น่าทึ่ง ด้วยระยะห่างจากพื้นดินขั้นต่ำ 220 มม.